Written by 11:13 am Featured, Interviews, Patani, Patani Notes

“มันยาก แต่มันต้องลอง” : เมธี ลาบานูน เลือดใหม่ ปชป.

“ทุกคนบอกว่าอย่าไปเล่นการเมืองมันเป็นเรื่องสกปรก เป็นเรื่องผลประโยชน์ อันนั้นเป็นพฤติกรรมของคนที่เขาแสดงให้เห็น ทุกคนเลยมองอย่างนั้น แต่บริบทจริง ๆ คือมันเป็นหน้าที่ของคนทุกคนเลยว่าต้องใส่ใจกับการเมือง”

เมธี อรุณ  หรืออีกชื่อที่คนส่วนใหญ่รู้จักคือ เมธี ลาบานูน ชื่อนี้จุดความสนใจของหลายคนขึ้นมาอีกครั้งในฐานะนักร้องนำวงลาบานูนของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้  เขามีทั้งผลงานในฐานะศิลปิน นักวิชาการ อดีตนักการเมืองท้องถิ่น รวมไปถึงเป็นผู้บริหารทีมฟุตบอล และหลังจากที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เปิดตัวเมธีให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เป็นนักการเมืองเลือดใหม่ของพรรค เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม 2564 เมธีก็เพิ่มความเป็นนัการเมืองเวทีใหญ่เข้าไปในโปรไฟล์อีกหนึ่ง

เมื่อถามว่าทำไมหันมาสนใจลงการเมืองเวทีใหญ่ เมธีบอกกับ Patani NOTES ว่า มันถึงเวลาแล้ว

“ผมรู้สึกว่าพอเราอายุสี่สิบขึ้น ผมอยากทำอะไรที่มันใหญ่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็ชอบทำอะไรเพื่อส่วนรวม ผมมีองค์กรจิตอาสาที่ช่วยเหลือชาวบ้าน แต่มันก็เป็นได้แค่จิตอาสา พออายุ 41 .. 42 เราก็มองเห็นลูก ลูกเราอายุ 15,16 อีกยี่สิบปีข้างหน้าลูกเราก็โตขึ้น แล้วก็มองตัวเองว่าอีกยี่สิบปีข้างหน้าจุดโฟกัสของเราไปที่ไหนกันแน่ เราจะยังอยู่ในวงการนี้ไหม หรือจะไปวงการอื่น ช่วงโควิด มันคือจุดเปลี่ยน อยู่บ้านมันทำให้มีเวลาคิด งานแสดงก็ทำได้ยาก เลยตัดสินใจว่าต้องลงการเมืองแล้ว”

หลังจากพรรคประชาธิปัตย์เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครและนักการเมืองเลือดใหม่ในพื้นที่ของพรรคคนนี้ กระแสทั้งด้านบวกและด้านลบก็พุ่งตรงเข้ามาที่ตัวเมธีทันที ที่หนักหน่อยคือด้านลบ ทั้งนี้เพราะชื่อของพรรคนั่นเอง

“ผมเปิดตัวกับประชาธิปัตย์ มาด่าผมเต็มเลย มีคอมเม้นท์แบบเสียดายที่ท่านเลือกพรรคผิดไป”  เขาบอกว่าอันที่จริงเขากลัวเรื่องแบบนี้ คาดคิดไว้แล้วและเตรียมตัวไว้แล้วเช่นกัน

ผมเตรียมรับตั้งแต่แรก เพราะคิดอยู่แล้วว่าเจอแน่นอน แต่ก็เกินคาด ไม่คิดว่าการที่ผมลงพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแบบนี้”

เห็นชัดว่ากระแสประชาธิปัตย์เป็นประเด็น แล้วถ้าเช่นนั้นเหตุใดจึงเลือกปชป. เมธีบอกเหตุผลสั้น ๆ ว่าเพราะพรรคให้เกียรติ เป็นพรรคแรกที่ไปคุยกับเขาอย่างเป็นทางการ

“ที่จริงไม่เคยมีความฝันอยากจะเป็น สส. เลย แต่รู้สึกว่าเวลาได้ช่วยชาวบ้านผมรู้สึกผมมีความสุข แล้วถามว่าทำไมต้องลงสส.  ลงเพราะว่าเขาให้เกียรติเชิญเรา ก็ลองดู แล้วก็บนพื้นฐานว่าการเมืองดี สังคมดี ผมเชื่อมั่นตรงนั้น มันอาจจะเป็นอุดมคติก็จริง แต่เราก็ต้องมีอุดมคติที่ดีก่อน”

“ในมุมมองของผมถ้าอยากจะทำ คือต้องฟื้นฟูพรรคให้เร็วที่สุด คือถ้ามองว่าตอนนี้พรรคกำลังดาวน์ (ตก) และผมก็กำลังดาวน์เหมือนกัน มันท้าทายมาก ต้องฟื้นฟูให้เร็วที่สุด ต้องศึกษาข้อเสีย”

เมธีเชื่อว่าเรื่องเช่นนี้กู้ได้

มีพรรคไหนบ้างที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่มีหรอกครับ มีอะไรบ้างที่รู้สึกว่าเพอร์เฟคที่สุด ไม่มีหรอก 

การฟื้นฟูพรรคอาจจะทำได้ด้วยการเติมเลือดใหม่ที่เป็นคนใหม่ไฟแรง เมธีมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องทำ เช่นเดียวกันกับการเมืองภาพใหญ่ที่มีคนรุ่นใหม่เดินเข้าไปในอีกหลายๆจุด พวกเขาเหล่านี้คือคนที่จะผลักดันภาพของการเมืองในอนาคต ไม่ว่าจะอยู่พรรคใดก็ตาม แต่ยุคนี้คือยุคสมัยของคนวัยแบบเขา

“คนที่มีอุดมการณ์ คนที่มีวิธีคิดพัฒนาอะไรต่าง ๆ ต้องมาเล่น ต้องกระโดดเข้ามา ถึงเวลาที่คนเก่ง ๆ คนอายุวัยประมาณ 40 ซึ่งผมคิดว่าเป็นวัยที่กำลังดี ที่เขาจะกำหนดชีวิตอีกยี่สิบปีข้างหน้า ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ ผมว่าเขามีความคิดไม่ได้แตกต่างกันหรอก เพียงแต่อยู่คนละพรรคกันก็ว่ากันไป แต่ท้ายที่สุดเป้าหมายคืออะไร บางอย่างก็ต้องใจเย็น ๆ ต้องเข้าใจบริบท”

“มันยากเหมือนกัน แต่มันก็ต้องลองทำ”

(Visited 232 times, 1 visits today)
Close