ประธานาธิบดีทาชิ กับนักการเมืองแถวหน้าของโคโซโวสี่คน อดีตสมาชิกระดับสูงของกองกำลังโคโซโวเข้าสู่สถานที่ควบคุมตัวที่กรุงเฮก เตรียมตัวสู้คดีในศาลพิเศษในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หลังจากที่ฝ่ายเซอร์เบียโดนไปแล้วก่อนหน้านี้
นายฮาชิม ทาชิ (Hashim Thaci) ประธานาธิบดีประกาศลาออกจากตำแหน่ง เขาบอกว่าการลาออกของเขาเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของประเทศ เพื่อให้ประเทศยังดำรงไว้ซึ่งเอกภาพและศักดิ์ศรี
ทาชิและนักการเมืองระดับสูงอีกสามคนถูกกล่าวหาเรื่องก่ออาชญากรรมสงครามและต่อมนุษยชาติ บางคนถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ไปแล้ว พวกเขาจะไปรอสู้คดีในสถานที่ควบคุมตัวในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์เพื่อเตรียมสู้คดี ในศาลพิเศษคดีโคโซโวที่กรุงเฮก นายทาชิเองปฏิเสธเรื่อยมาว่าเขาไม่มีความผิดดังที่ถูกกล่าวหา และเขาเป็นเพียง นักสู้ผู้ปลดปล่อยโคโซโวจากการปราบปรามของเซอร์เบีย
ข้อกล่าวหาสำหรับพวกเขามีหลายข้อหาย่อยที่ล้วนเป็นเรื่องของการก่ออาชญากรรมสงคราม (war crime) และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crime against humanity) มีทั้งการสังหาร การบังคับให้คนสูญหายและการทรมาน
ทาชิเป็นอดีตผู้นำระดับสูงคนหนึ่งของกองทัพปลดปล่อยประชาชนโคโซโว Kosovo Liberation Army เอเอฟพีรายงานว่าเขาเป็นผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มซึ่งต่อสู้เพื่อแยกตัวจากเซอร์เบีย หลังจากนั้นเขาเข้าสู่การเมืองเช่นเดียวกับอีกหลายคนที่เคยเป็นสมาชิกและวันนี้พวกเขากลายเป็นนักการเมืองมีบทบาทเป็นผู้นำ
นายทาชิปฏิเสธเรื่อยมาว่าเขาไม่มีความผิดดังที่ถูกกล่าวหา และเขาเป็นเพียง นักสู้ผู้ปลดปล่อยโคโซโวจากการปราบปรามของเซอร์เบีย
ทาชิ วัย 52 ประกาศลาออกหลังจากที่ผู้พิพากษายืนยันว่ามีการส่งฟ้องเขา เขายืนยันว่าจะให้ความร่วมมืออย่างดี เพราะเชื่อมั่นในความจริง การปรองดองสมานฉันท์และอนาคตของสังคม
ศาลพิเศษหรืออนุญาโตตุลาการพิเศษนี้ตั้งขึ้นมาสำหรับกรณีความขัดแย้งโคโซโว โดยตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 หรือ 2558 โดยได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปหรืออียู ทั้งนี้เพื่อสะสางข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำที่เป็นการก่ออาชญากรรมสงครามที่เกี่ยวพันกับความขัดแย้งระหว่างคนสองชาติพันธุ์คืออัลบาเนียนและเซิร์บในโคโซโวและเซอร์เบียในระหว่างช่วงปี 2541-2542 เซอร์เบียได้ส่งกำลังปราบปรามคนเชื้อสายอัลบาเนียที่เป็นประชากรในโคโซโว จนได้รับผลกระทบอย่างหนัก รายงานระบุว่ามีผู้เสียชีวิตร่วม 13,000 คน พลัดที่อยู่อีกจำนวนมาก และความขัดแย้งนี้ยุติลงเมื่อนาโต้ใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซง ผลของความขัดแย้งนี้ไม่ใช่เพียงฝ่ายโคโซโวที่ถูกฟ้องร้อง ฝ่ายผู้นำทหารและตำรวจของเซอร์เบียเองก็ถูกนำตัวขึ้นสู่ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศหรือศาลโลกก่อนหน้านี้และหลายคนถูกตัดสินไปแล้วด้วยข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม
ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา อัยการของศาลพิเศษกล่าวหาทาชิและอดีตผู้นำคนอื่นๆของกองทัพปลดปล่อยโคโซโวว่า สังหารคนไม่ต่ำกว่าร้อย นอกเหนือไปจากข้อหาก่ออาชญากรรมอื่นๆ รายงานระบุว่า ศาลพิเศษที่ทำหน้าที่ในคดีนี้ใช้กฎหมายของโคโซโวในการพิจารณา แต่การไต่สวนและดำเนินการกระทำในกรุงเฮก ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการที่พยานจะถูกข่มขู่คุกคาม เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นบุคคลที่มีอำนาจในทางการเมืองของโคโซโว
เอเอฟพีรายงานว่า ในโคโซโวเอง ทาชิก็ไม่ได้มีภาพลักษณ์เป็นวีรบุรุษสำหรับทุกคน เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่องในเรื่องการบริหารและปัญหาคอรัปชั่น อย่างไรก็ตามในเรื่องประวัติศาสตร์ช่วงความขัดแย้งกับเซอร์เบียนั้น ผู้คนส่วนใหญ่สนับสนุนกองทัพปลดปล่อยโคโซโว จะมีก็เพียงไม่กี่คนที่จะตั้งคำถาม ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างโคโซโวกับเซอร์เบียยังคงมึนตึงแม้จะผ่านไปกว่ายี่สิบปีแล้วก็ตาม เซอร์เบียยังคงไม่ยอมรับเอกราชของโคโซโว
สำหรับภูมิหลังความขัดแย้งในเรื่องโคโซโวนั้น เริ่มจากการที่ผู้นำเซอร์เบียคือสโลโบดาน มิโลเซวิชไม่ยอมรับสถานะของโคโซโวซึ่งอยู่ในพื้นที่เซอร์เบียว่ามีอำนาจปกครองตนเอง โคโซโวประท้วงเรื่อยมาและปะทุเป็นความขัดแย้งระหว่างคนเชื้อสายอัลเบเนียนซึ่งเป็นมุสลิมอันเป็นประชากรของโคโซโว กับคนเชื้อสายเซอร์เบีย เซอร์เบียใช้กำลังเข้าจัดการ ในที่สุดฝ่ายต่อต้านในโคโซโวจัดตั้งกองกำลังคือกองทัพปลดปล่อยโคโซโวขึ้นต่อสู้ในปี 2539 แต่เซอร์เบีย ด้วยการสนับสนุนของสาธารณรัฐยูโกสลาเวียที่เซอร์เบียเป็นรัฐสมาชิกด้วยได้ใช้กำลังปราบปรามหนักขึ้น แม้เมื่อนานาชาติเข้าแทรกแซงและมีการเจรจาก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งการปราบปรามได้ มีการทำข้อตกลงแต่ไม่มีผล ประชากรเชื้อสายอัลเบเนียนเสียชีวิตและพลัดที่อยู่นับล้านเพราะถูกผลักดันให้ออกนอกพื้นที่ จนในที่สุดนาโต้มีปฏิบัติการทางทหาร ทิ้งระเบิดเซอร์เบียนานถึง 11 สัปดาห์จึงทำข้อตกลงกันได้ในเวลาต่อมา
แหล่งข้อมูล แถลงการณ์ของ Kosovo Specialist Chambers & Specialist Prosecutor’s Office
AFP NPR และ Britannica
