“ปัญหาสำคัญของปาตานีคือทุน ทุนถูกเอาไปใช้ด้านความมั่นคงมาก แต่ไม่เคยส่งเสริมด้านอื่นเลย เราต้องผลักดันให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางของการพัฒนา”
สัญญานการเลือกตั้งทั่วไปใกล้เข้ามาทุกขณะ แม้ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเลือกตั้งในวันไหน แต่หลายพรรคกำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่สนามชิงชัยแห่งนี้ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือปาตานีเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิเลือกตั้งที่หลายคนจับตามอง ทั้งพรรคใหญ่และพรรคเล็ก ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่เริ่มเปิดตัวและนำเสนอไอเดียเพื่อชนะใจประชาชน
Patani Notes พาทุกคนมาพูดคุยกับอีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในฐานะรองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ฮากิม พงตีกอ นักเคลื่อนไหวที่เบนเข็มมาสู่เส้นทางการเมืองแถมยังรั้งตำแหน่งสำคัญทั้งในพรรคเป็นธรรม และของกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคมที่เขาทำอยู่แต่เดิมคือปาตานีบารู
ทำไมถึงลงเอยกับพรรคเป็นธรรม
มันเริ่มจากการที่องค์การปาตานีบารูที่ผมสังกัดเป็นกลุ่มที่เชื่อในเรื่องของการผลักดันการแก้ปัญหาผ่านการเมือง ผ่านรัฐสภา และ ผ่านนโยบายอยู่แล้ว พอถึงเวลาที่เราเลือกว่าจะทำงานการเมืองกับพรรคไหน สิ่งที่เราพิจารณาคือ นโยบายของพวกเขานั้นเข้ากันกับสิ่งที่เราผลักดันอยู่หรือไม่ เช่น ด้านความมั่นคง สันติภาพ เสรีภาพ เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องรัฐสวัสดิการ คือเรามีพื้นฐานแนวคิดด้านเศรษฐกิจที่คำนึงวิถีชุมชน อัตลักษณ์ และ ความยั่งยืน เรามองว่าปาตานีมีจุดแข็งมากที่จะสามารถพัฒนาต่อได้ มันควรมีการผลักดันที่เอื้อให้กับคนกลุ่มเล็กๆไม่ใช่เฉพาะนายทุน และที่สำคัญแนวคิดเรื่องรัฐสวัสดิการในด้านการศึกษา และบำนาญประชาชน เรื่องรัฐสวัสดิการเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ
อีกหนึ่งองค์ประกอบคือเรื่องวัฒนธรรมการทำงานของพรรคว่ามีพื้นที่ให้เราผลักดันประเด็นของเราไหม เรามีเงื่อนไขว่าถ้าพรรคจริงจังกับปัญหาปาตานี ต้องให้คนปาตานีเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารพรรค และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
พรรคเป็นธรรมเป็นพรรคใหม่ มีพื้นที่ให้เราผลักดันประเด็นของเราได้ รวมทั้งการที่เรามีข้อต่อที่เชื่อมเรากับพรรคคือคุณกัณวีร์ สืบแสง (รองหัวหน้าและประธานยุทธศาสตร์พรรค) เราคิดว่าเราสามารถผลักดันประเด็นไปด้วยกันได้
เปลี่ยนบทบาทจากนักเคลื่อนไหวมาเป็นนักการเมืองเต็มตัว ต้องปรับตัวเยอะหรือไม่
ตอนนี้เป็นนักการเมืองแล้ว ต้องบอกว่าก็ต้องเรียนรู้ โดยเนื้อแท้ผมเป็นแอคทีวิสต์ เดิมผมไม่เคยเชื่อเรื่องการผลักดันผ่านกลไกสภา ชาวบ้านหลายคนก็ไม่เชื่อในระบบรัฐสภา
แต่สิ่งที่ทำให้เปลี่ยนคือการได้เห็นพลังการขับเคลื่อนของคนรุ่นใหม่ มันทำให้เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเรื่องเสรีภาพที่จะพูดเรื่องความต้องการของปาตานี เรื่องอำนาจต่างๆมาสารถทำได้ คนรุ่นใหม่เริ่มยอมรับประเด็นปาตานีมากขึ้น เขาเห็นประเด็นปาตานีมากขึ้น มันเป็นความหวังว่าเราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ และอย่าลืมว่าโดยพื้นฐานแล้วคนปาตานีมีความตื่นตัวทางการเมือง ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในระดับที่สูงมาก ทำไมไม่ใช้แรงเหวี่ยงพวกนี้สร้างการเปลี่ยนแปลงล่ะ
ที่ผ่านมาเราเจอเพดานในการทำงานว่า การผลักดันสันติภาพที่ไม่มีเจตจำนงค์ทางการเมือง (political will) จากฝ่ายบริหารทำให้เป็นอุปสรรค เสรีภาพในการแสดงออกก็มีข้อจำกัด มันมีกฎหมายที่ฝ่ายเผด็จการนำมาอ้างเพื่อปิดปากคน เราคิดว่าเราต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้ ซึ่งการแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้มันต้องแก้ไขผ่านสภา ต้องผลักดันทางนโยบาย
ผมเป็นแอคทีวิสต์ที่เคยทำงานผลักดันประเด็นการเมือง เรื่องประชามติ แต่จู่ๆมาพูดเรื่องคุณภาพชีวิต หลายคนอาจมีคำถาม แต่ผมเดินมาถึงจุดหนึ่งที่คิดว่าสองสิ่งนี้สามารถเดินร่วมกันได้ แน่นอนเรายังอยากผลักดันการแก้ปัญหาที่จำกัดการแสดงออกของผู้คนแต่ก็เชื่อว่าในขณะเดียวกันก็ต้องคุยเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนควบคู่กันไปด้วยได้
หนึ่งในนโยบายที่เราฝันคือการยุบกอ.รมน. เราพยายามจะผลักดันเรื่องนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่ง่าย แต่การเมืองเป็นพื้นที่ที่ต้องต่อรอง หลายเรื่องทำได้เลยถ้าคนในสภามีแนวคิดเหมือนกัน แต่ถ้ามีคนคิดไม่เหมือนกัน เราก็ต้องโน้มน้าวผลักดันให้ได้
ผมเองไม่สับสนนะระหว่างปาตานีบารูและเป็นธรรม เพราะตอนนี้ตัวผมเองไม่ได้เป็นฝ่ายบริหารของปาตานีบารู แต่ผมก็ต้องทำให้พรรคเป็นธรรมซื้อไอเดียของปาตานีบารูให้ได้ ซึ่งพรรคเองก็เปิดพื้นที่ให้เรานำเสนอแนวคิดได้
เป็นรองเลขาธิการพรรคและเป็นคนดูแลยุทธศาสตร์ภาคใต้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใหญ่มีเแนวทางการทำงานอย่างไร
หนึ่งเลยเราวางว่าเราจะส่งผู้สมัครสู้ทุกเขตในปาตานี ๑๔ เขต และร่วมกันวางนโยบายให้กับพรรค หน้าที่คือ เอาแนวคิดที่เรามีมาผลักดันในนามพรรคการเมือง เน้นการกระจายอำนาจทั่วประเทศ และ autonomy สำหรับปาตานี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคที่ชูเรื่องจังหวัดจัดการตัวเอง ส่งเสริมการค้าชายแดน เรามองว่าเราจะทำงานยาวๆและเชื่อว่าสามารถผลักดันประเด็นได้และอยากไปโน้มน้าวแอคทีวิสต์ให้มาทำงานร่วมกัน สร้างนโยบาย สร้างวัฒนธรรมการทำงานการเมืองที่ทุกคนมีส่วนร่วมและโปร่งใส
พรรคเป็นธรรมเสนอเรื่องการสร้างระเบียงเศรษฐิจนูซันตารา รวมทั้งจังหวัดจัดการตัวเอง
มันเริ่มจากที่เราเชื่อว่าต้นทุนเศรษฐกิจที่นี่ดี มีอัตลักษณ์ที่แข็งแรง มีพื้นที่ทำการเกษตรซึ่งสามารถสร้างเป็นแหล่งอาหารโลกได้ เชื่อมโยงกับตลาดโลกมุสลิมได้ แต่ปัญหาสำคัญของปาตานีคือทุน ทุนถูกเอาไปใช้ด้านความมั่นคงมากแต่ไม่เคยลงทุน ไม่เคยส่งเสริมด้านอื่นๆเลย คนรุ่นใหม่มีไอเดียใหม่ๆเยอะ แต่ขาดการสนับสนุน เราต้องผลักดันให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางเป็นเมืองหลวงของการพัฒนา ส่งเสริมการค้าชายแดน ทำงานในแนวทวิภาคีกับพื้นที่อื่นๆทั้งในและนอกประเทศ ทำตลาดด้วยกัน ผลักดันให้ใช้เทคโนโลยีมาส่งเสริมการค้าขาย เปิดตลาดดิจิตอลขึ้นมา เรื่องแบบนี้ภูมิภาคอื่นเขาทำกันมานานแล้ว
งบประมาณถูกส่งมาที่นี่เยอะแต่มันไปลงที่งานด้านความมั่นคง คนที่ได้ประโยชน์จริงๆไม่ใช่คนพื้นที่ คนในพื้นที่ส่วนหนึ่งอาจได้งานเป็น อส. เป็นลูกจ้างของรัฐ แม้ได้เงินเดือนเลี้ยงครอบครัวแต่มันเป็นประโยชน์ในระยะสั้นและบดบังศักยภาพของผู้คนที่สามารถทำได้มากกว่านั้น มันแปลว่างบประมาณถูกใช้โดยไม่ตอบโจทย์พื้นที่ ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์ในระยะยาวจริงๆ
สิ่งที่เราคิดว่าจะต้องเดินควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจคือการกระจายอำนาจให้จังหวัดสามารถบริหารจัดการได้ด้วยตัวเองด้วย สามารถดึงความร่วมมือ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเอง ดึงทุนเข้ามาเองได้ เปิดประตูในการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ได้ด้วยตนเอง คือถ้ารัฐส่วนกลางยังผูกขาดการตัดสินใจมันก็จะมุ่งไปสู่การสร้างโรงไฟฟ้าจากพลังงานที่ดูเหมือนสะอาด แต่ไม่รู้สะอาดหรือปล่าว เป็นมิตรกับพื้นที่กับสิ่งแวดล้อมจริงๆหรือไม่
เราอยากทำให้ภาคการเมืองและชาวบ้านได้เห็นว่ามันมีทางเลือก เราสามารถสร้างสินค้าที่ชูอัตลักษณ์อันโดดเด่นของเรา เราจึงเสนอไอเดียเรื่องแบรนด์สินค้า Made in Thailand: Out of Patani เพราะความเป็นฮาลาลของปาตานีมันมีความน่าเชื่อถือ ความเป็นปาตานีมีจุดแข็งที่ไม่เคยถูกนำมาใช้ ผมอยากให้คนที่นี่ฝันร่วมกัน โดยเฉพาะในทิศทางเศรษฐกิจที่สร้างโอกาสและความยั่งยืนให้พื้นที่ได้
แล้วเรื่องการผลักดันประเด็นสันติภาพผ่านกลไกการเมือง?
ในประเด็นสันติภาพผมคิดว่ามันต้องหา process ที่ดีที่สุดที่ทำให้สองฝ่ายคุยกันให้ได้จริงๆ กระบวนการสันติภาพต้องเป็นวาระแห่งชาติที่นายกรัฐมนตรีจะต้องมีเจตจำนงค์ทางการเมือง (political will) ซึ่งพร้อมจะผลักดัน พร้อมออกกฤษฎีกาที่เอื้อให้การพูดคุยเช่น สมมุติหากมีการร้องขอ immunity ขึ้นมา นายกรัฐมนตรีต้องผลักดันให้ได้
แต่มันไม่พอ มันต้องมีการออกกฎหมายด้วยในการรองรับ กำกับการทำงานของราชการ คนทำงาน คอยถ่วงดุลกับฝ่ายบริหาร ก่อนนั้นจะต้องมีกรรมาธิการให้สภาได้ไปศึกษาหนทางที่ดีที่สุด มีการผลักดันให้สถาบันวิชาการทำหน้าที่ศึกษา ค้นหาทางออก
การออกกฎหมายว่าด้วยเรื่องสันติภาพ มันจะต้องมีอำนาจด้วย ยกตัวเช่น การออก immunity ให้กับฝ่าย B (คู่พูดคุยหรือคู่เจรจา/BRN) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการพูดคุย ทุกวันนี้คณะพูดคุยแทบไม่มีอำนาจเลย คุยอะไรไม่ได้ แม้แต่จะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้กลับบ้านคณะพูดคุยยังไม่มีอำนาจเลย
ที่ผ่านมาทั้งกลไกสภาและบริหารดูเหมือนยังไม่ให้ความสำคัญกับการผลักดันประเด็นสันติภาพ ที่ผ่านมาเราก็เห็นอยู่ว่าภาคประชาสังคมพยายามผลักดันผ่านกลไกของสภา แต่ตอนนี้ญัตติที่เสนอให้ตั้งกรรมาธิการในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพยังอยู่ลำดับท้ายๆ มันแปลว่ารัฐสภาไม่ได้ให้ความสำคัญและเราเองทำงานผลักดันผ่านกลไกนี้น้อยมาก
ถ้าได้ที่นั่งในสภาสิ่งแรกที่จะทำคือ?
จุดแข็งของพวกผมคือการเป็นคนรุ่นใหม่ มีความกล้าหาญ พร้อมต่อสู้ มีความตั้งใจ และการที่พรรคเป็นธรรมยังเป็นพรรคใหม่ สิ่งที่มีคือความสด ถ้ามีโอกาสเราอยากทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายบริหารเช่นสำนักนายกรัฐมนตรีเลย รวมทั้งผลักดันการทำงานกับกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวพันกับกฎหมายระหว่างประเทศ การหาโมเดลประเทศต่างๆในการสร้างสันติภาพ
ในด้านกฎหมายเราก็ต้องผลักดันเรื่องการจำกัดการใช้กฎหมายพิเศษต่างๆ และแน่นอนเราต้องผลักดันประเด็นสันติภาพปาตานีให้เป็นวาระต้นๆของรัฐบาล เพื่อหาทางออก ทั้งหมดตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ว่าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งหากไม่ใช่ เราคงทำหน้าที่ผลักดันผ่านกลไกของรัฐสภาแทน
ในสมรภูมิเลือกตั้งอันดุเดือด จะซื้อใจชาวบ้านอย่างไร?
ในเรื่องของการเลือกตั้ง เราอยากนำเสนอวิถีการเมืองแบบใหม่พร้อมๆไปกับวิธีคิดแบบมาตุภูมินิยม เราจะนำสองส่วนนี้มาเป็นจุดแข็งของเรา ความท้าทายคือเราจะผลักดันเนื้อหาการทำงานของเรายังไงให้ลงไปถึงระดับชาวบ้าน ดังนั้นเราจะทำงานกับเครือข่ายคนรุ่นใหม่ที่เข้าถึงชาวบ้านได้จริงๆ เราเชื่อว่ามีคนที่ต้องการเลือกคนทำงานแบบเราเยอะมาก เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้งระดับเขตเราจะคัดเลือกผู้คนที่ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาเป็นผู้สมัคร ไม่ว่าจะเป็น นักต่อสู้เรื่องสันติภาพ เรื่องสิทธิ เรื่องการศึกษา เราอยากเชื้อเชิญคนเหล่านี้มาเดินทางผ่านกลไกสภาไปด้วยกัน