Written by 11:27 am Memoir

โอรังอัสลี 2

โอรังอัสลีก็ใช้สมาร์ทโฟน

เมื่อตอนที่แล้วผมเขียนไปบ้างเล็กน้อยแล้วว่าทีมวิจัยเราเคยติดต่อกับหัวหน้ากลุ่มโอรังอัสลีกลุ่มหนึ่งผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์ เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องใหม่หรือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าเชื่อว่าโอรังอัสลีจะใช้โทรศัพท์
ถึงตรงนี้ผมก็อยากจะชักชวนให้ทำลายความเชื่อที่ว่าโอรังอัสลีเป็นชาวป่าบ้าใบ้ โง่ ๆ เซ่อ ๆ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกป่าหรือโลกสมัยใหม่เหมือนอย่างที่วรรณกรรมและละครทีวีหลังข่าวสร้างภาพจำให้เชื่อเช่นนั้น
ถึงแม้ว่าโอรังอัสลีจาไฮในประเทศไทยจะมีวิถีการดำรงชีวิตในป่าเป็นหลักมานาน แต่ก็มีปฏิสัมพันธ์กับหมู่บ้านเชิงเขารอบป่าที่เขาอยู่ด้วยเช่นกัน โอรังอัสลีในสมัยก่อนต้องการสินค้าเครื่องใช้บางอย่างที่พวกเขาไม่สามารถหาได้ในป่าและไม่สามารถผลิตเอง เช่น ยาสูบและมีดพร้า เป็นต้น โอรังอัสลีในปัจจุบันก็เช่นเดียวกัน ผมเคยถามโอรังอัสลีกลุ่มนี้ว่าทำไมพวกเขาต้องออกจากป่ามารับจ้างในหมู่บ้าน ทั้ง ๆ ที่มีของกิน มีสัตว์ป่ามากพอที่พวกเขาจะดำรงชีพได้ เขาตอบผมง่าย ๆ ว่า มีของหลายอย่างที่ไม่มีในป่าและพวกเขาก็อยากใช้มัน


ตอนที่ผมเก็บข้อมูลสนามเจอหัวหน้ากลุ่มและน้อง ๆ ของเขาลงมาที่หมู่บ้านเชิงเขาครั้งแรก ผมค่อนข้างประหลาดใจกับการแต่งตัวของพวกเขาที่แต่งตัวตามเทรนด์ตามสมัยนิยม นุ่งกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ ใส่เสื้อยืดลวดลายแปลกตา และผมเห็นโทรศัพท์มือถือที่เหน็บตรงกระเป๋าของหนุ่มโอรังอัสลีคนหนึ่ง ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นโทรศัพท์หรอกครับ แต่เมื่อสังเกตจากพวกเขาหลายคน ผมก็ค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นโทรศัพท์มือถือ ความสงสัยแรกของผมคือ เขามีโทรศัพท์ไว้ติดต่อใคร ? ในเมื่อพวกเขาก็อยู่ด้วยกันในป่าเกือบตลอดเวลา ตอนนั้นถึงจะสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามพวกเขาหรอกครับว่ามีโทรศัพท์มือถือไว้ทำไม ผมเกรงใจและคิดว่าออกจะเสียมารยาทที่สนใจเรื่องส่วนตัวของเขาขนาดนั้น และผมก็คิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะใช้ไม่ต่างจากคนเมืองถ้าพวกเขาต้องการ จนผ่านไปหลายเดือนเมื่อสนิทกับพวกเขา คลุกคลีกับพวกเขาบ่อยมากขึ้นถึงรู้ได้จากการสังเกตว่าพวกเขาใช้ในการฟังเพลงเป็นหลัก บางคนให้ร้านในหมู่บ้านบันทึกเพลงเป็นร้อยเพลงในโทรศัพท์ พวกเขาเปิดโทรศัพท์ฟังเพลงในยามที่พวกเขาเบื่อและว่างงาน พวกเขามีอารมย์สุนทรีย์มากครับ

ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์
ฤาอุบายมุ่งร้ายฉมังนัก มโนหนักมืดมัวเหมือนราตรี
และดวงใจย่อมดำสกปรก ราวนรกชนเช่นกล่าวมานี้
ไม่ควรใครไว้ใจในโลกนี้ เจ้าจงฟังดนตรีเถิดชื่นใจ

ถ้าอิงความเชื่อจากบทพระราชนิพนธ์แปล ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจากต้นฉบับของ วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ ชิ้นนี้ โอรังอัสลีคงไม่อยู่ในกลุ่มคนที่ดวงใจดำสกปรกราวนรกและไม่ควรไว้ใจเหมือนอย่างบทพระราชนิพนธ์ชิ้นนี้หรอกครับ … พวกเขาเป็นคนซื่อ ใจดี จริงใจและน่าคบหาอย่างยิ่งทีเดียว

มีหลายคนในหมู่พวกเขาโดยเฉพาะหนุ่ม ๆ วัยรุ่นกลุ่มนี้ที่ใช้สมาร์ทโฟน นอกจากจะบันทึกเพลงในหน่วยความจำแล้ว เวลาที่ลงไปที่หมู่บ้านที่มี Wifi พวกเขาเปิด YouTube กันครับ ดูหนังฟังเพลงกันสนุก เท่าที่สังเกตส่วนใหญ่ฟังเพลงบาดีเกร์มลายูและเพลงลูกทุ่งสนุก ๆ
ผมมักจะมองเพลินเวลามองพวกเขาใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟนเพื่อเลือกเพลง ใช้กันคล่องมือมากครับ เลื่อนปื้ด เลื่อนปื้ด มีบางคนถึงขั้น Advance กว่านั้นคือ สั่งซื้อของจากเวปขายของ ประเภท Lazada หรือ Shopee ครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมสงสัยจนต้องเอ่ยปากถามเขาครับ เพราะการสังเกตอย่างเดียวไม่สามารถแก้ข้อสงสัยของผมได้เลย จนได้ความว่าพวกเขาบางคนใช้การเปิดหน้าแคตตาลอกหาสินค้าที่พวกเขาถูกใจ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกางเกงเดินป่าประเภทที่มีกระเป๋าเยอะ ๆ นั่นละครับ เมื่อเจอสินค้าที่ถูกใจก็จะให้คนที่เขาสนิทและไว้ใจในหมู่ช่วยสั่งซื้อให้เขา ชี้รูปให้ดู ถามราคา จากนั้นคนในหมู่บ้านก็จะช่วยสั่งซื้อให้เขาโดยออกเงินค่าสินค้าให้เขาไปก่อน เมื่อสินค้ามาถึงคนที่ช่วยสั่งสินค้าให้เขาก็จะเก็บไว้จนเจอพวกเขาครั้งต่อไปจึงให้ของที่สั่งซื้อและเขาถึงจะจ่ายเงินให้ ก็ถ้อยที่ถ้อยอาศัยกันแบบนี้ละครับ
ผมเคยแอบถามน้องในหมู่บ้านที่ช่วยสั่งของให้เขาบ่อย ๆ คนหนึ่งว่า มีการชักดาบ มีการเบี้ยวไม่จ่ายตังค์หลังจากได้ของแล้วบ้างไหม ? น้องหัวเราะแล้วบอกว่า ไม่เคยมี น้องยืนยันว่าโอรังอัสลีรักษาสัญญามาก แถมความจำดีอีกต่างหาก ใครสัญญาว่าจะให้อะไรเขาถ้ายังไม่ให้ตามที่รับปาก พวกเขาจะทวงสัญญาทุกครั้งที่เจอ ส่วนสินค้าที่เขาต้องการซื้อเองหรือเขาให้ช่วยสั่งซื้อ เขาก็จ่ายเงินเต็มตามราคาสินคาที่เขารู้ตอนสั่งทุกครั้ง ไม่มีเนียนจ่ายน้อยกว่าหรือติดค้างไม่ยอมจ่ายแต่อย่างใด

เรื่องความจำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมทึ่งโอรังอัสลีมาก พวกเขาจำชื่อพวกเราได้ทุกคนทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกันครั้งเดียว หลายเรื่องที่เป็นเรื่องใหม่หรือประกบการณ์ใหม่ของเขา พวกเขาก็เรียนรู้และจำมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น การใช้โทรศัพท์ การเปิดเวปต่าง ๆ จากสมาร์ทโฟน ผมเจอโอรังอัสลีกลุ่มหนึ่งที่รับจ้างทำสวนริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง(ยะลา) ซึ่งการเดินทางในบริเวณนั้นนิยมใช้เรือหางยาว ครั้งหนึ่งทีมวิจัยเราจะเดินทางไปยังที่แห่งหนึ่ง โอรังอัสลีคนนี้อาสาขับเรือหางยาวของนายจ้างเขาพาพวกเราไปส่งยังที่หมาย ผมถามนายจ้างเขาว่าสอนโอรังอัสลีขับเรือหางยาวยากไหม ? คำตอบของพี่เขาคือ เขาไม่เคยสอนให้ขับเรือ เขาเล่าให้ฟังว่าโอรังอัสลีคนนี้รับจ้างในสวนเขามานาน ไปไหนมาไหนโดยที่พี่เขาขับเรือให้นั่งตลอด แต่มาวันหนึ่งโอรังอัสลีคนนี้ก็ขอลองขับเรือบ้าง เขาก็ให้ลอง ปรากฏว่าขับได้ถึงแม้จะไม่คล่องนัก โอรังอัสลีบอกว่าสังเกตวิธีการขับเรือจากเขามานานแล้ว คิดว่าไม่ยาก เลยอยากลองขับเรือบ้าง ตอนที่ผมนั่งเรือที่โอรังอัสลีคนนี้ขับ เขาขับคล่องจนนายจ้างไว้ใจให้ขับส่งพวกผมได้แล้ว ตอนนั่งเรือผมถามหยอก “จำปาดะ” โอรังอัสลีที่ขับเรือว่าเขาว่ายน้ำแข็งไหม ? ผมว่ายน้ำไม่เป็น ถ้าเรือล่มต้องช่วยผมนะ เขาหัวเราะพลางบอกว่า ถ้าเรือล่มเราก็นอนในน้ำกันทุกคน เพราะเขาก็ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน

ย้อนกลับไปเล่าเรื่องโทรศัพท์ของโอรังอัสลีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมลืมเล่าให้ฟัง… “มะแซ” หัวหน้ากลุ่มโอรังอัสลีกลุ่มหนึ่ง ใช้โทรศัพท์มือถือเหมือนอย่างชาวบ้านทั่ว ๆ ไปใช้ คือใช้โทรติดต่อสื่อสารกับคนอื่น แซเป็นโอรังอัสลีคนเดียวที่ผมรู้จักที่ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อสื่อสาร ไม่ใช่เพื่อฟังเพลงและสั่งซื้อของเป็นหลักเหมือนโอรังอัสลีคนอื่นในกลุ่มเขา บ่อยครั้งที่ผมได้ยินเสียงโทรศัพท์ของแซดังขึ้นจากการโทรตามหาของคนในหมู่บ้าน จากแบมะบ้าง เลาะห์บ้าง และบางครั้งผมก็เห็นแซโทรหาคนในหมู่บ้านเพื่อนัดหมายในการลงไปรับจ้างหรือลงไปขายสมุนไพร ทุกครั้งที่มะแซรับโทรศัพท์เขาจะเรียกชื่อของคู่สนทนาปลายสายเขาทุกครั้ง และทุกครั้งเขาเรียกได้อย่างถูกต้องไม่เคยพลาดเลยว่าคู่สนทนาของเขาคือใคร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมทึ่งที่สุด สงสัยมาตลอดจนถึงเดี๋ยวนี้ว่าแซจำเบอร์โทรศัพท์และบันทึกชื่อของคนที่ติดต่อกับเขาอย่างไร โอรังอัสลีทุกคนไม่รู้จักภาษาเขียน ไม่รู้จักตัวเลข แล้วมะแซบันทึกและจำคู่สนทนาได้อย่างไร เรื่องนี้ผมไม่เคยถามเขา และไม่เคยขอเขาดูว่าเขาเซฟเบอร์ต่างๆอย่างไร … ผมเกรงใจเขา ไม่อยากละลาบละล้วงเปิดโทรศัพท์ซึ่งเป็นของส่วนตัวเขา ปล่อยให้มีเรื่องที่ผมหาคำตอบไม่ได้สักเรื่องก็คงไม่เป็นไร

(Visited 29 times, 1 visits today)
Close