สัมภาษณ์พิเศษ

Written by 1:06 pm Featured

จับตาการละเมิดสิทธิระหว่างโควิดระบาด

สส.นราธิวาส กมลศักดิ์ ลีวาเมาะชี้อย่ามุ่งแต่จัดการไวรัส ต้องรับมือปัญหาคนว่างงานเพิ่มและต้องจับตาการละเมิดสิทธิ

สัมภาษณ์พิเศษโดย Patani NOTES

สส.นราธิวาส กมลศักดิ์ ลีวาเมาะเตือนแรงงานจากมาเลเซียเดินทางกลับบ้านไม่เพียงเพิ่มความเสี่ยงเรื่องไวรัส แต่ทำให้รายได้หดหายและยังมีคนว่างงานเพิ่ม ชี้ในช่องว่างช่วงที่ทุกฝ่ายสนใจปัญหาโควิด19 อาจเปิดโอกาสให้มีการละเมิดสิทธิและละเลยปัญหาด้านอื่นเพราะสังคมและสื่อหันไปทุ่มเทเรื่องโรคระบาดอย่างเดียว

สส.กมลศักดิ์ แห่งพรรคประชาชาติเตือนรัฐบาลว่าขณะนี้ยังต้องหาทางลดผลกระทบต่อประชาชนในเรื่องเศรษฐกิจโดยเฉพาะกลุ่มหาเช้ากินค่ำเพราะ “ปัญหาประชาชนไม่ได้มีด้านเดียว”

นายกมลศักดิ์ชี้ว่า ในช่วงระหว่างที่มีการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนานี้ ไม่มีการประชุมสภา เท่ากับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้คือสส.ไม่สามารถนำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไปนำเสนอในสภาได้ ช่องทางการนำเสนอในเรื่องเหล่านี้ถูกปิดลงโดยปริยาย ในขณะที่รัฐบาลเองก็มุ่งเน้นทำงานในเรื่องการจัดการปัญหาการระบาดจนปัญหาอื่นๆถูกกลบไป พร้อมกันนั้นเขาตั้งข้อสังเกตว่า การที่สังคมมุ่งสนใจเรื่องโรคระบาดอย่างเดียว อาจทำให้ปัญหาด้านอื่นที่ต้องอาศัยการจับตาจากสังคมถูกมองข้าม เช่นในเรื่องความเป็นธรรม การละเมิดสิทธิ

สส.กมลศักดิ์ยกตัวอย่างของปัญหาในพื้นที่ที่ควรจะเป็นปัญหาใหญ่นั่นคือเรื่องการปิดล้อมที่พื้นที่ตาเซะซึ่งเป็นการปิดล้อมที่ใช้เวลานานมาก อาจจะถือว่านานที่สุดเท่าที่ตนเคยได้ยินมาคือร่วมสิบวัน แม้ว่าตาเซะไม่ได้อยู่ในพื้นที่การดูแลของตนโดยตรง แต่สส.ถือเป็นผู้แทนของทุกพื้นที่โดยหลักการ ดังนั้นจึงมีความเป็นห่วง โดยเแพาะในเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบซึ่งมีคำถามจำนวนมากจากที่ได้รับทราบมาจากเพื่อนสส.ด้วยกันพบว่า ชาวบ้านใกล้เคียงมีความวิตกและไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แม้แต่ในเรื่องของผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตสามศพจากการปะทะดังที่เป็นข่าว นอกจากนั้นมีข่าวลือต่างๆมากมาย ในขณะที่ในเชิงข้อมูลข่าวสารกลับพบว่า เรื่องเช่นนี้หายไปจากการรายงานของสื่อ เพราะทุกคนพุ่งความสนใจไปที่เรื่องไวรัสเป็นหลักอย่างเดียวจนแทบลืมเรื่องอื่น ทำให้ปัญหาอื่นแทบจะถูกมองข้ามไป รวมทั้งข่าวการวางระเบิดหน้าศอ.บต.

“ถ้าการปฏิบัติการบางอย่างไม่เป็นไปตามหลักสากล มันจะทำให้คนที่คอยแหกกฎได้ใจในเรื่องการละเมิดสิทธิ นี่ผมพูดถึงทั้งสองฝ่ายนะ แต่เขาคงไม่ฟัง”

สส.กมลศักดิ์ยังยกตัวอย่างอีกว่า เมื่อวันก่อนตนได้รับร้องเรียนเรื่องการแต่งตั้งทีมงานผู้ใหญ่บ้านที่ล่าช้าของพื้นที่หนึ่ง คาดกันว่าอาจเนื่องมาจากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ใหญ่บ้านเคยติดคดีในอดีต การแต่งตั้งไม่เกิดขึ้นและล่าช้าอย่างมากในขณะที่ในพื้นที่ต้องการคนทำงาน

นายกมลศักดิ์กล่าวถึงสิ่งที่ควรจะต้องได้รับความใส่ใจ เช่นการกำหนดงบประมาณให้ตอบโจทย์ของประชาชนในท้องที่ เช่นในเรื่องการศึกษา เด็กๆนักเรียนในพื้นที่ไม่เคยได้รับการสนับสนุนค่าอาหารกลางวันจากทางการ ชาวบ้านต้องพึ่งตัวเองด้วยการจัดงานต่างๆเพื่อระดมทุนเป็นค่าอาหารกลางวันให้เด็กที่ไปเรียน บางโรงเรียนพยายามช่วยตัวเองเช่นเก็บขวดขาย เลี้ยงปลา ฯลฯ ตนเคยจัดงานเมื่อเดือนมค.จนได้ทุนค่าอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนจำนวน 600,000 บาทแต่ทั้งนี้หากเรื่องนี้ทางรัฐบาลสนับสนุนจะเป็นเรื่องที่ดี และจากการที่สส.นำเรื่องนี้ไปพูดทำให้ในที่สุดกระทรวงศึกษาธิการตัดสินใจจัดสรรงบประมาณสนับสนุนค่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน แต่ต้องเป็นปีงบประมาณที่ 2564 แต่เรื่องนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่างบประมาณที่ลงในพื้นที่บางครั้งไม่ตอบโจทย์ของประชาชน

ในระหว่างที่สังคมกำลังต่อสู้กับการระบาดของไวรัส สส.กมลศักดิ์ชี้ว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นในจังหวะที่ประชาชนเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ และผลจากการระบาดจนทำให้มีการใช้มาตรการปิดประเทศทำให้มีแรงงานที่ไปทำงานในมาเลเซียเดินทางกลับประเทศกันจำนวนมาก แรงงานเหล่านี้กลับมาอยู่บ้านโดยที่ไม่มีงานทำ บางคนพยายามหารายได้เล็กๆน้อยๆ แต่ก็ยากที่จะทำได้ ในขณะที่ตามปกติคนเหล่านี้คือคนที่จะสร้างรายได้สนับสนุนครอบครัว ขณะนี้เท่ากับว่าในพื้นที่มีคนว่างงานเพิ่มขึ้นจำนวนมากในทันทีทันใดนั่นเอง และรัฐควรมองหามาตรการสนับสนุน อาจมีงานบางอย่างที่สามารถริเริ่มได้

“คือรัฐบาลนี้ใช้งบกลางที่มีอยู่ห้าแสนกว่าล้าน ตอนนี้ผมว่าถึงเวลาแล้วที่จะเอาเงินจำนวนนี้มาทำประโยชน์ให้ชาวบ้าน เช่นเรื่องการขาดแคลนหน้ากากหรือเจลล้างมือ ควรกระจายงบมาให้พวกชมรมต่างๆทำ” นอกจากนั้นสส.นราธิวาสชี้ว่า มาตรการบางอย่างดูลักลั่น การปิดห้างก็ปิดเฉพาะในบางพื้นที่

#กมลศักดิ์ลีวาเมาะ

(Visited 61 times, 1 visits today)
Close